ชมพู่ ผลไม้ที่เต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญ

ชมพู่

ชมพู่ ชื่อวิทยาศาสตร์ของชมพู่คือ Syzygium samarangense (Blume) Merr. et L. M. Perry หรือชื่อพ้องว่า Eugenia javanica L. ชมพู่อยู่ในวงศ์ Myrtaceae ชมพู่ภาษาอังกฤษ เรียกว่า rose apple ชมพู่ผลไม้ ที่นิยมบริโภคในรูปแบบสดๆ ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์ หากคุณกำลังมองหาผลไม้ที่เต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้คุณรับประโยชน์มากมาย ทั้งวิตามินและไฟเบอร์ ผลไม้หน้าร้อน ชมพู่คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม มาเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ที่เยี่ยมยอดของชมพู่และทำความรู้จักกับคุณค่าทางโภชนาการที่น่าทึ่งที่สุดของผลไม้ชนิดนี้กันเถอะ

พันธุ์ชมพู่ที่คนนิยมบริโภค

รสชาติของชมพู่ถือเป็นความหวานอมเปรี้ยวที่น่าตื่นเต้น มีความหวานอ่อนๆ ไม่จัดเกินไป ผลไม้ชมพู่ ทำให้เป็นผลไม้ที่เป็นที่ยอมรับและโปรดใจของผู้บริโภค ในประเทศไทยนั้น พันธุ์ชมพู่ ที่คนนิยมบริโภค

  1. พันธุ์ทับทิมจันทร์ ผลมีลักษณะคล้ายระฆังคว่ำ เนื้อสีขาวถึงขาวขุ่นมี 1 – 3 เมล็ด เวลาแก่จัดเมล็ดจะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีน้ำตาลเข้ม
  2. ชมพู่เพชรบุรี ชมพู่เพชรบุรี มีผลคล้ายระฆังคว่ำ ตรงกลางป่องเล็กน้อย ผลแก่จัดจะมีเส้นสีแดงและเส้นสีเขียว เนื้อภายในสีขาวแข็งกรอบ รสชาติหวาน ราคาสูงที่สุดในบรรดาชมพู่หลายๆสายพันธุ์ เรียกได้ว่าเป็นชมพู่เงินล้าน
  3. ชมพู่มะเหมี่ยว ผลชมพู่มะเหมี่ยว จะมีความหนา เนื้อนุ่ม หอม และมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว
  4. ชมพู่แก้มแหม่ม ผล มีลักษณะทรงกลมรี รูปทรงคล้ายระฆังคว่ำ ผิวเปลือกนอกเรียบ ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีขาวหรือสีแดงอ่อน ตามสายพันธุ์ ภายในผลข้างใน จะมีเนื้อกรอบนุ่มฉ่ำน้ำ มีสีขาว มีเมล็ดเกาะติดอยู่ข้างใน มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอม
  5. ชมพู่สีนาก ผลชมพู่ มีลักษณะคล้ายระฆัง ที่ปลายผลมีชั้นของกลีบเลี้ยงรูปถ้วยติดอยู่ตลอด เนื้อ สี รูปร่าง ขนาด และรสชาติแตกต่างกันตามพันธุ์ ส่วนเมล็ด มีตั้งแต่ 1 ถึง 5 เมล็ด หรืออาจไม่มีเมล็ดแล้วแต่พันธุ์ชมพู่

ประโยชน์ของชมพู่

1.ชมพู่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ช่วยในการขับถ่าย
      ประโยชน์ของชมพู่ ชมพู่มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยในกระบวนการขับถ่าย ด้วยความเต็มไปด้วยไฟเบอร์ทั้งชนิดละลายน้ำและชนิดไม่ละลายน้ำ ชมพู่ อ้วนไหม สารอาหารเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่าย ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างเหมาะสมและสมดุลย์มากขึ้น

2.ผลไม้น้ำตาลน้อยเหมาะสำหรับผู้ดูแลสุขภาพ
     หากคุณกำลังมองหา ผลไม้น้ำตาลน้อย ชมพู่เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีปริมาณน้ำตาลที่เบาบาง น้ำหนักเพียง 100 กรัม ชมพู่กี่แคล ชมพู่ น้ำหนัก 100 กรัม (1 ผลขนาดกลาง) ให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 0.6 กรัม คาร์โบไฮเดรต 5.7 กรัม แคลเซียม 29 มิลลิกรัมของชมพู่ทับทิมจันทร์เพียง 7.7-7.9 กรัมหรือประมาณ 1.9-2 ช้อนชา และชมพู่มะเหมี่ยวมีน้ำตาลประมาณ 5.8 กรัมหรือ 1.5 ช้อนชาต่อน้ำหนัก 100 กรัม นอกจากนี้ ชมพู่ทูลเกล้าที่มีขนาดใหญ่มีปริมาณน้ำตาลประมาณ 7.9 กรัม หรือเทียบเท่ากับปริมาณน้ำตาลในชมพู่เพชรที่มีน้ำหนักเท่ากัน

3.มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินครบถ้วน
     ชมพู่ช่วยอะไร ชมพู่มีคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย และเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่และบำรุงรักษาร่างกาย นอกจากนี้ยังมีวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามิน A ที่ช่วยบำรุงสายตา วิตามิน C ที่เสริมภูมิคุ้มกัน และวิตามิน E ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและสดชื่น

4.ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
     ชมพู่ ประโยชน์ มีไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำในชมพู่มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลดการดูดซึมไขมันในระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ชมพู่ยังเต็มไปด้วยวิตามินและโพแทสเซียมที่ช่วยบำรุงหลอดเลือด และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย

วิธีการเลือกชมพู่

1.เลือกชมพู่ที่มีเนื้อกรอบและหวาน ควรเลือกผลที่มีลักษณะเป็นรูประฆังคว่ำ ผิวสวยไม่โดนเจาะ ด้านบนขั้วไม่ลีบเล็กจนเกินไป

2.สังเกตรอยแฉกใต้ลูกชมพู่ รอยแฉกใต้ลูกชมพู่ ควรมีลักษณะที่ค่อนข้างลึกและกว้างได้รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส เพราะถ้ารอยแฉกใต้ลูกชมพู่เบี้ยว มีรอยแฉกตื้น ชมพู่ลูกนั้นมักจะมีเนื้อนิ่มและมีรสฝาด

3.ชมพู่ที่แก่ ผิวของชมพูต้องขึ้นเส้น สามารถมองเห็นเป็นเส้นขึ้นตามลูกในแนวดิ่งลง

4.มองรอบๆ ผลชมพู่ พยายามเลือกชมพู่ที่ผิวสวย อย่าเลือกชมพู่ที่มีรอยช้ำ เพราะชมพู่เป็นผลไม้เปลือกบาง จึงเกิดการช้ำและเน่าเสียได้ง่าย

ข้อควรระมัดระวังในการทานชมพู่

อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการบริโภคชมพู่ เนื่องจากในส่วนของเมล็ด ราก และใบของชมพู่ มีสารไซยาไนด์ (Cyanide) ที่เป็นมีสารพิษต่อร่างกาย ถึงแม้จะมีปริมาณที่ไม่มาก แต่ก็ไม่ควรรับประทานเข้าไป เนื่องจากสารไซยาไนด์สามารถส่งผลร้ายต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดได้

ชมพู่

เมนูอาหารและเครื่องดื่มจากชมพู่

ชมพู่ (Java Apple) เป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยและหวานอ่อน ไม่ว่าจะทานในรูปแบบผลสดหรือนำมาใช้ในการเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยความหอมหวานและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มาเรียนรู้เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่สามารถสร้างขึ้นจากชมพู่ให้คุณติดใจ

เมนูอาหารที่ใช้ชมพู่

  1. สลัดชมพู่

รับประทานในเวลา: มื้อเที่ยงหรือเย็น

ส่วนผสม

  • ชมพู่สด
  • ผักสลัดต่าง ๆ (เช่น ผักกรีนโอ๊ค, ครองแครง, ผักชี)
  • ถั่วแระ
  • น้ำส้มสด
  • น้ำผึ้ง
  • มะนาวหรือมะกรูดสำหรับปรุงรส

วิธีทำ:

  1. ล้างผักสลัดและผลชมพู่ให้สะอาด
  2. หั่นชมพู่เป็นชิ้นบางๆ
  3. ผสมผักสลัดและชมพู่ในชาม
  4. รสชาติด้วยน้ำส้มสดและน้ำผึ้ง
  5. โรยถั่วแระและมะนาวหรือมะกรูดสำหรับปรุงรส

 

2.ยำชมพู่มะเหมี่ยว

ส่วนผสม

  • ชมพู่มะเหมี่ยว 4-5 ผล
  • ต้นหอม 4 ต้น
  • ผักชี 1 ต้น
  • คึ่นช่าย 1 ต้น
  • หอมใหญ่ 1/2 หัว
  • ผักชีใบเลื่อย 5 ใบ
  • มะนาว 2 ผล
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  • มะเขือเทศ(ไม่ใส่ก็ได้) 3 ผล
  • พริกขี้หนู 15 เม็ด
  • หมูสับ 200 กรัม อาจใช้เนื้อสัตว์อื่นผสมด้วยก็ได้ เช่น กุ้งปลาหมึก ปลา ฯลฯ

วิธีทำ

  1. หั่นชมพู่เป็นชิ้นพอคำ สับหมูแล้วนำไปรวนไฟให้สุกพร้อมน้ำคลุกคลิกไว้เป็นเชื้อน้ำยำ
  2. นำมายำโดยใส่หมูสับกับน้ำรวนหมู (แบ่งหมูสับไว้โรยหน้านิดหน่อย) ปรุงรสด้วยน้ำปลา พริกขี้หนูทุบสับหยาบ บีบมะนาว ใส่หอมใหญ่ น้ำตาล ชิมรสเปรี้ยวเผ็ดนำเค็ม เน้นรสจัดจ้าน ตามด้วยต้นหอม คึ่นช่าย ผักชีใบเลื่อยหั่นฝอย ท้ายสุดใส่ชมพู่มะเหมี่ยว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมและปรุงรสอีกครั้งตามชอบ
  3. จัดใส่จานนำหมูสับที่แบ่งไว้โรยหน้าเป็นท็อปปิ้ง ยกเสิรฟกับเครื่องดื่มเย็นๆ ยำมะเหมี่ยว

 

  1. น้ำชมพู่

ส่วนผสม

  • ชมพู่สด
  • น้ำเปล่าหรือน้ำแร่
  • น้ำผึ้ง
  • น้ำมะนาวหรือมะกรูด

วิธีทำ

  1. ล้างชมพู่และหั่นเป็นชิ้นบางๆ
  2. ใส่ชมพู่ลงในแก้ว
  3. เติมน้ำเปล่าหรือน้ำแร่
  4. รสชาติด้วยน้ำผึ้งและน้ำมะนาวหรือมะกรูด

 

4.ขนมพายชมพู่

ส่วนผสม

  • แป้งสาลี
  • น้ำตาลทราย
  • เนย
  • ไข่ไก่
  • ชมพู่สด

วิธีทำ

  1. ผสมแป้งสาลี, น้ำตาลทราย, เนย และไข่ไก่เข้าด้วยกัน
  2. คลุกเคล้าจนเกิดเนื้อขนม
  3. หั่นชมพู่เป็นชิ้นเล็กๆ
  4. ใส่ชมพู่ลงในเนื้อขนม และอบในเตาอบเป็นขนมพาย

สรุป

ชมพู่เป็นผลไม้ที่มีความหวานอมเปรี้ยว และเต็มไปด้วยความหลากหลายของสายพันธุ์ ชมพู่เป็นผลไม้ที่ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น และในช่วงเวลาที่ร้อนระอุชมพู่เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์ช่วยในกระบวนการขับถ่าย สารอาหารต่าง ๆ ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล และวิตามินที่ช่วยบำรุงร่างกาย จึงไม่น่าแปลกที่ชมพู่ถูกนับว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าสูง อีกทั้งชมพู่เป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยและหอมหวาน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำหรือขนม การใช้ชมพู่ในการสร้างเมนูอาหารและเครื่องดื่มช่วยเพิ่มรสชาติและความน่าสนใจให้กับเมนูของคุณ

FAQ: คำถามที่พบบ่อย

Q: ชมพู่มีประโยชน์ทางโภชนาการอย่างไร?

A: ชมพู่มีสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์อย่างมาก รวมถึงวิตามินและเส้นใยอาหารที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้และกระเพาะอาหาร

Q: ชมพู่มีคุณค่าทางโภชนาการที่สำคัญหรือไม่?

A: ชมพู่มีคุณค่าทางโภชนาการมาก เนื่องจากมีวิตามินและเส้นใยอาหารที่ช่วยให้ระบบย่อยสลายอาหารทำงานดีขึ้น

Q: มีวิธีรับประทานชมพู่ให้ปลอดภัยอย่างไร?

A: ควรทานเฉพาะส่วนของผลและผิวของชมพู่ และไม่ควรรับประทานส่วนเมล็ด ราก และใบที่อาจมีสารไซยาไนด์

ติดตามข่าวสารได้ที่  https://seasonsfruits.com
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : กล้วย ผลไม้ไทยมากคุณค่า